Saturday, December 13, 2008
กลิ่นหอมของลมหนาว
อากาศจะมีกลิ่นหอมๆ ชื้นๆ ให้หายใจอย่างสดชื่น
อากาศแบบนี้ชวนให้ยิ้ม เป็นสุขใจ
กลิ่นหอมๆ ที่ไม่ปรุงแต่ง ชวนให้อยากไปที่หนาวๆ น้ำหนาว เชียงดาว เชียงราย เชียงตุง
ฟ้าตอนเช้าก็ใส สีฟ้าไล่ระดับ
ฟ้าตอนกลางคืนก็กระจ่าง พระจันทร์แจ่ม ฟ้าสีน้ำเงินเข้ม
แม้ยังอยู่กทม. แต่ชิวสู๊ดๆ
ปล. อยากไปนี่แหละ http://chiangrai-dialogue.blogspot.com/2008/12/blog-post_13.html
แต่กลัวเดินไปเดี้ยงไป ฮ่าๆๆ
Wednesday, December 10, 2008
การแสดงของเจ๊
เป็นคนที่สนุกกับการได้ไปฟิตเนสอย่างมาก
แม้จะตัวกลม อ้วนพี น่ารัก หน้าบูด(บ้าง)
แต่สิ่งที่เจ๊ชอบทำหลังจาสกไปฟิตเนสเฟริสคือสาธิตท่ากระโดดเตะรูปแบบต่างๆ ให้ดิฉันและคนในบ้านดู
"นิ้งๆๆๆๆๆ ดูนะ" เสียงอันร่าเริง (มาก) ของเจ๊เอ่ยขึ้น
หลังที่ทำให้ดิฉันดูอย่างน้อยสองรอบ เธอจะเรียกดิฉันทำตาม แน่นอน วันไหนบ้าจี้ก็ทำตามกันใหญ่
ฮ่าๆๆๆ
"หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด"
หลังจากเอาขายกมาแตะศอกสามที ขากลมๆ ข้างซ้ายก็แตะขึ้นหนึ่งครั้ง พร้อมกระโดดเตะ ดับเบิ้ลคิกขาข้างขวาด้วยความเร็วแสง
ฟิ้วๆ
นี่คือการแสดงของเจ๊
กิจกรรมทางครอบครัวแนวใหม่ที่ชี้ชวนให้ลองทำกัน
Monday, December 08, 2008
หง่ำๆ
แม้ว่าควรจะ no where to fo, nothing to do บ้างก็ตามที
ก็มันเป็นนิสัยละนะ
ช่วงนี้กลับบ้าน แม้จะล้าๆ อยู่ แต่ก็หาเรื่องทำนู้นทำนี่ตลอด
ยืนอยู่หน้าตู้หนังสือตัวเอง แล้วก็ร้องเพลงหลอนๆ ทำนองพลัม และเนื้อคร่ำครวญ ประมาณว่า
โอ้ หนังสือฉัน
อ่านอะไรดี
หนังสือจริงจังสุดๆ
อยากอ่านอะไรกุ๊กกิ๊กๆ
งืมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หนังสือเต็มไปหมด
แต่อ่านไม่หมด
โอ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ลองจิเดาว่าเพลงอะไร ฮ่าๆๆ
เพี้ยนว่ะ
สรุปว่าหนังสือเต็มตู้
ซื้อเอาไว้ คงเพราะกลัวตัวเองว่าง
หนังก็มี (เเต่เยอะไม่เท่า) อย่าไปรวมนิยายที่นั่งอ่านตาแฉะ
เหอๆๆๆ
ยัง ยังไม่หยุด หง่ำๆ
แต่ก็พยายามอยู่นะ
Saturday, November 01, 2008
ความต่อต้าน
ไม่ได้เก่ง
ไม่ได้รวบ แล้วเสกออกมาได้
แล้วไงล่ะ
แล้วไงล่ะ
ไม่ได้ยิ้ม แล้วทุกอย่างโอเค
แต่ก็เชื่อว่าบรีธแล้วโอเค
แล้วไงล่ะ
แล้วไงล่ะ
ซืดๆ
ซ้าดๆ
อยากออก
ไปมอง
ฟ้า
และ
ดาว
ที่กว้างใหญ่
ให้ได้กลิ่น
ดิน
ของ
ลม
ที่พัดเข้ามา
พาไปสุดปลาย ฟ้า
ฟ้า
ฟ้า
ฟ้า
โลก
โลก
โลก
โลก
มันกว้างใหญ่
.
.
.
.
Thursday, October 30, 2008
คืนอันยาวนาน
หนักบนตัวของตัวเอง
ไม่ขอปิดตา
ไม่พลิกดินฟ้า
ฟ้าสีฟ้า
เมฆสีขาว
ก็ของเราทั้งนั้นแหละ
Wednesday, October 08, 2008
งานของโพธิสัตว์
ยิ่งอ่าน ยิ่งแก้
ก็ยิ่งรู้สึกว่า นี่มันเป็นงานของโพธิสัตว์ชัดๆ
ความสามารถที่จะฟังความทุกข์เข็ญ และถ่ายทอดจากใจเพื่อสร้างจินตนาการแห่งความเห็นอกเห็นใจ
ปล. พี่คนนี้เห็นพลัมแล้วบอกว่า เป็นงานที่มีคุณค่า น่าอ่านมากค่ะ
ว้าวๆ
เวลาที่เธอปวดขา...
เวลาที่เธอสับสนใ นหัวใจ เธอก็รู้ว่าเธอสับสนในหัวใจ
เวลาที่เธอเหงา ให้รู้ว่าเธอเหงา
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
ขอให้เธอดูเเลขา ใจ และความเหงาของเธอให้ดี
เพราะเขาเป็นสัญญาณเตือนที่เป็นเพื่อนแท้
feeling is come and go
like a cloud in windy sky
my breathing
is anchor
Tuesday, September 30, 2008
Happy Continuation Day
We are very lucky people, because we are have the practice
Understand the practice is understand suffering in yourself
inspiration by TP dung
and many LP
:)
Sunday, August 24, 2008
Monday, August 11, 2008
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
Wednesday, July 30, 2008
Sunday, July 27, 2008
ใยแมงมุม
ไพ่สองสีนั้น
วางตัวเรียงกัน
เป็นแถวเป็นแนว
บ้างสลับสี
น้ำเงิน แดงๆ
ไล่ลงทิวแถว
ราวใยแมงมุม
เธอว่าแปลกไหม
ฉันตัวฉันนั้น
สลับสองสีนั้น
ไปๆ มาๆ
ขยับตาและปาก
ตามทางที่มี
บางทีก็เหมือนละครทีวี
สลับสี สลับที สลับวี กันไป
เธอว่าแปลกไหม
ใยฉันใยเธอ
แบ่งแยกกันนะเออ
ว่าเธอกับฉัน
ฉันรัก ฉันโกรธ กับเธอพัลวัล
ใยว่าตัวฉันและเธอกันลง
กับเรา กับเธอ กับเออ ลาละบาย...
Saturday, July 26, 2008
ในอ้อมกอดของท้องฟ้า
สีฟ้าสด
ขาวเข้ม
เมฆเป็นริ้วทาง
กระทบแดดยามเย็น
กลายเป็นสีส้ม เหลือง พีช ขาว ประดับบทฟ้า ฟ้า
กินข้าวกับท้องฟ้า ทำให้หายเศร้า
กินข้าวกับท้องฟ้า ทำให้เราถูกกอด
กอดจากโลกทั้งใบ
กอดจากข้าวในจาน
In this food
I clearly see the presence of the entire universe
Supporting my existence
In the sky
I clearly see the presence of the entire universe
Supporting my existence
เพียงไม่นาน ไม่นาน
ท้องฟ้าเปลี่ยนสี เป็นสีเทา
คำของหลวงปู่ขึ้นมาในหัว
เราอาจะถามว่า ท้องฟ้าที่สวยงามจ้า เธออยู่ไหน เธอได้จากฉันไปแล้วหรือ?
ท้องฟ้าอาจจะกำลังตอบว่า ฉันไม่ได้หายไปที่ไหนเลย เมื่อเเดดลาลับ สีฟ้าของฉันก็หม่นลง แต่ฉันก็ยังอยู่ตรงนั้น ถ้าเธอเงยหน้ามองฉัน เธอก็จะเห็น
ท้องฟ้าจ้า เธอคงไปปรากฎที่อื่น และเราต้องได้พบกันอีกแน่นอน
Friday, July 25, 2008
In the mood for love
พวกเขาจะขึ้นไปบนภูเขา
หาต้นไม้สักต้น...เจาะรูบนต้นไม้
และกระซิบบอกความลับทั้งหมดของตัวเองลงไป
เสร็จแล้วก็เอาดินเหนียวอุดไว้
ความลับของเขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้”
Monday, July 21, 2008
i am not myself
Wednesday, July 16, 2008
คำในหัว
ไม่ใช่การประนีประนอมกับความหลงผิดและปล่อยผ่านเลย
โอ้ แล้วมันจะเป็นอย่างไร
Sunday, July 06, 2008
คมคำ
Sunday, June 29, 2008
Wednesday, June 25, 2008
Sunday, June 22, 2008
Thursday, June 19, 2008
consumption
Sunday, June 15, 2008
. . .
เยอะจังนะ
ความโกรธก็ยังมี
ฉันเชื่อตัวฉันเอง
แต่ก็ยังฟังเธอ
เธอที่ฉันโกรธ
เธอที่ฉันรัก
ฉันฟังเธอ แต่ยังโกรธ
โกรธเธอ ก็เหมือนโกรธฉัน และโลกใบนี้
ฉันขอไม่ฟังเธอซักพัก
เพื่อที่ฉันจะยังรักเธอได้
เพื่อที่ฉันจะรักตัวฉันเองได้ และโลกใบนี้
ฉันต่อต้านด้วยอารมณ์ และ สัญชาติญาณ
พิทักษ์รักษาด้วยลมหายใจ
Thursday, June 12, 2008
สารแห่งสันติ
ปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ไม่ต้องหนีเข้าวัด ไม่ต้องวิ่งวุ่นไปที่ไหน
หาที่นั่ง หาเวลาสบายๆ อยู่กับตัวเองมากขึ้น
อยู่ที่นี่ ตรงนี้
มองลึกเข้าไปในดวงตาของเรา
มองให้ลึกถึงภาวะข้างในอย่างจริงใจและศิโรราบกับทุกสิ่ง ทั้งด้านบวกและลบ
มองกาย วาจา ใจ มองการกระทำของเรา
มองเหตุแห่งกาย วาจา ใจ และการกระทำ
หยุดที่จะติดยึดกับความคิด
เมื่อพร้อมมากพอ เรียนรู้ที่จะอยู่ตรงนี้มากพอ เราจะได้คุยกันด้วยวาจาแห่งความรัก
:)
Wednesday, June 11, 2008
เรือลำน้อย ปลาตัวน้อย
เหมือนเราเป็นปลาเล็กๆ ตัวหนึ่งในทะเล
ที่ปรากฎขึ้น อย่างนั้น
เติบโตขึ้นกลายเป็นเรือลำหนึ่งที่ลอยอยู่ในทะเลแห่งชีวิต
ไม่มีมา ไม่มีไป
เต็มด้วยความไม่รู้
เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้
ล่องเรือลำน้อย ไม่รู้ว่าที่ใดคือฝั่ง
พายุมา หากคว้าหางเสือเจอก็ถือเป็นโชค
เมื่อคว้างเคว้ง หางเสือก็ดูไร้ความหมาย
เรือลำน้อย หากมันรู้สักหน่อย มันจะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่ง มันก็คือปลาตัวน้อย
รอบกายมันเต็มไปด้วยชีวิต อากาศ น้ำ ลมหายใจ ญาติมิตร
เรือลำน้อยไม่ได้โดดเดี่ยว มิได้ทิ้งร้าง
แต่กำลังเดินทางสู่หนทางที่เต็มไปด้วยความไม่รู้
อย่างผู้อยากรู้
Sunday, June 08, 2008
new soul
I'm a new soul
I came to this strange world
Hoping I could learn a bit bout how to give and take
But since I came here, felt the joy and the fear
Finding myself making every possible mistake
La, la, la, la
La, la, la, la
See I'm a young soul
in this very strange world
Hoping I could learn a bit bout what is true and fake
But why all this hate?
try to communicate
Finding trust and love is not always easy to make
This is a happy end
Cause you don't understand
Everything you have done
Why's everything so wrong
This is a happy end
Come and give me your hand
I'll take you far away
I'm a new soul
I came to this strange world
Hoping I could learn a bit bout how to give and take
But since I came here, felt the joy and the fear
Finding myself making every possible mistake
New soul... (la, la, la, la,...)
In this very strange world...
Every possible mistake
Possible mistake
Every possible mistake
Mistakes, mistakes, mistakes...
Wednesday, June 04, 2008
ธรรมะจากหลวงพ่อส้มโอ
Fall in Love is an Accident but Plunge into Love is Process of Life , it is True Love, Universal Love.
การตกหลุมรัก คือ การติดอยู่ ไม่เป็นอิสระ Fall in Love เป็นอุบัติเหตุ มีผู้รักและมีผู้ถูกรัก อาจจะดีกว่าหากเรากระโดดขึ้นจากหลุมรัก แทนที่จะใช้คำว่า Fall in Love เราอาจใช้คำว่า Plunge into Love คือ กระโจนเข้าสู่กระแสรัก เป็นหนึ่งเดียวกับสายธารแห่งความรักที่ไหลล่องไป เพราะนั่นคือความรักที่แท้ การตกหลุมรักเป็นอุบัติเหตุแต่การอยู่ในกระแสแห่งรักเป็นกระบวนการของชีวิต เป็นหนึ่งเดียว เป็นความรักที่แท้ ความรักของจักรวาล
ต้นไม้และผืนดิน
ถ้าเปรียบเราเป็นใบไม้ เราคิดว่าใบไม้ได้รับสารอาหารมาจากราก จากดิน จากต้นไม้ เป็นการได้รับทางเดียว เมื่อดิน ราก ลำต้น แข็งแรง ใบไม้ก็งอกงาม แต่แท้ที่จริงแล้วใบไม้ก็เกื้อกูลกลับมายังดิน ราก และลำต้นด้วย ใบไม้ได้ให้ร่มเงาแก่ดิน ให้ธาตุอาหารป้อนกลับมายังดิน ราก และลำต้น นี่คือ Inter Being ทุกอย่างไม่ได้แยกขาดจากกันเลย
Don’t try to help other people with word, But doing or acting by living as a meaning message.
Wednesday, May 28, 2008
หนึ่งวัน
กระเป๋าหนุ่มจมูกโด่งตาคมบรรจงวาดรูปสาวคอซองในรูปถ่าย บนสมุดวาดรูปลายการ์ตูนที่เด็กประถมชอบใช้กัน ถึงกระดาษจะหยาบ แต่หัวใจละเลียดความงามของเธอ
ยามสายประชุม
ถาม ตอบ ไป มา
ปฏิเสธ ตอบรับ
ความไม่แน่นอน ความไม่มั่นคง ความหวาดกลัว
เสียงหัวเราะกลบ เสียงนินทา เสียงบายๆ ขอให้โชคดี
และคัทซึ
เย็นสยาม
นั่งเฉยๆ ในแอร์เย็น แต่ใจไม่เย็น
ดูมันไป
มันกลัว มันเกรง มันเต้นตุบๆ
ไปร้านการ์ตูนได้ยินเพลง "ทะเลสีดำ"
เข้าโรงหนังดู "จูโน่"
เด็กผู้หญิงโตเร็ว
เด็กผู้ชายโตช้า
บทสนทนาแสบสันต์ ชาญฉลาด น่ารัก มีชีวิต
ฝนตกหนัก
เมืองเฉอะแฉะ อบอ้าว
รถเมล์เบียดเสียด
ไอเย็นของฝนปลิวเข้าหน้า
หนึ่งวันผ่านไป หัวใจเต้นหลายจังหวะ. . . จัง
Monday, May 26, 2008
การ์ตูนเพี้ยน
นอกเหนื่อจากเรื่องพม่า บ้านฉันก็ตามข่าวชุมนุมอย่างดุเดือด
แต่ข้าพเจ้าขอชิว หลังจากนั่งๆ (หน้าคอม) นอนๆ (แถวเตียง) และโทรศัพท์ประสานงาน จึงเดินไปเช่าการ์ตูนเล่น และเจอ
การ์ตูนเล่มนี้ "สุมิเระ 16 จ้า!!"
หน้าปกดูเป็นสาว 16 แอ็บแบ็ว แต่เอ๊ะ ไอ้ลุงข้างหลังมันใคร แล้วใยปากน้องสุมิเระมันแปลกๆ พิลึกๆ เมื่อเปิดดูก็พบว่าตัวเอกของเรื่องคือ "สุมิเระ" เป็นเด็กสาวมอปลาย อายุ 16 เพิ่งเข้าเรียนปีแรก และมี "ลุง" นิรนามหน้า still ที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง
เข้าโรงเรียนได้อย่างไรยังไม่รู้ รู้แต่มีผอ.หนุนหลัง ว่าเป็นสองสิ่งนี้เป็น "เด็กนักเรียนหญิงของโรงเรียนเรา"
ไม่รู้ลุงคือใคร ไม่รู้สุมิเระคืออะไร แต่เมื่อมาประกอบกับ เธอกลายเป็นหุ่นชักใยที่เป็นมนุษย์มาก และ ชวนขำพุ่ง เมื่อเห็น
สุมิเระขี่จักรยานและพยายามชวนเพื่อนซ้อน แต่ว่าลุงซ้อนอยู่นะ
สุมิเระพยายามชวนเพื่อนหญิงไปเข้าห้องน้ำด้วยกัน แต่ลุงเป็นผู้ชายนะ
สุมิเระว่ายน้ำและพยายามสอนคนอื่นว่าย ซึ่งลุงกำลังชักอยู่เข้าหลังนะ
สุมิเระวิ่งอย่างชิว ส่วนลุงหอบแฮ่ก ก็ควร
สุมิเระชกมวยกับมวยปล้ำร่างยักษ์ มันจะดีเหรอว่ะ
สุมิเระแนะนำหนุ่มขี้อายให้คุยกับสาว เอิ่ม - -"
ฯลฯ
เพื่อนของสุมิเระ คือ เร็งเงะ สาวเรียบร้อยที่มักโดนเพื่อนแกล้ง, ฮิบาคิ ลูกสาวยากูซ่า ประธานชมรมนักมวย และอีกมาก พร้อมทั้งอาจารย์เพี้ยนๆ อีกเป็นจำนวนมาก
เห็นอย่างนี้เธอกลับมีจิตวิญญาณของนักเรียนสาวมอปลายที่น่ารัก สดใส และเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม
อ่านแล้วชวนให้สบถว่าเป็นภาษาบาลีสันสกฤตว่า"เชี่ย!!!"
เป็นไปได้ไง การ์ตูนเรื่องนี้มันช่าง cult!!!!!!! ย้อนแย้งยอกเย้ยเสียยิ่งกว่าคุโรมาตี้
ไม่อยากเล่าให้เสียเรื่อง ใครนิยมการ์ตูนเพี้ยนควรอ่านยิ่งนัก ส่วนข้าพเจ้าก็จะอ่านการ์ตูนเรื่องอื่นรอสุมิเระจังต่อไป
......................................................................................
ของแถมการ์ตูนเรื่องที่เพิ่งอ่านVassalord
นี่คือการ์ตูนวายในคราบบงกช 5555
คนบนปกทำให้ใจเราละลาย อร๊างงง เท่มาก สวยมาก เป็นทั้งมารและพระเจ้าในคราวเดียวกัน (เว่อไปม่ะ)
นายทาสของเราก็น่ารัก น่าเคี้ยวกรุบกริบ กรั่กๆ ว่าแล้วก็หาซื้อเก็บดีกว่า ฮิฮิ
...................................................................
สาวขี้เซากับหนุ่มเอาแต่ใจ
เห็นลายเซ็นอ.คนนี้ก็รู้ว่าการ์ตูนแกเพี้ยน และก็เพี้ยนตามคาด อยากอ่านเอาฮาก็ไปหาอ.ไอมาอ่านได้
...............................................
Sunday, May 25, 2008
ขอต้อนรับสู่......วัยทอง
ไม่อยากเถียง แต่เถียงไปเรียบร้อย
อยากจะรัก อยากจะเข้าใจ
แต่ยังทำไม่ได้ซักที ให้ตายเถอะโรบิ้น
ขอต้อนรับสู่......วัยทอง
พูดก็ไม่ดี เงียบก็ไม่ดี
ว๊ากฉันทุกที อะไรว้า~
Friday, May 23, 2008
Thursday, May 22, 2008
บันทึกพายุ
ฝนเม็ดเป้งร่วงกราว
ฉันวิ่ง
ฟ้าปราบแปร็บ
ต้นไม้พัดลู่
ละอองฝนสาดใส่
ฝนทิ้งตัวลงบนร่องน้ำราวเดือดปุด
นี่คือเศษเสี้ยวพายุ
พายุที่พม่า
พายุที่อเมริกา
แผ่นดินไหวที่จีน
หรือสึนามิที่ไทย
ท้องฟ้ากำลังร้องไห้
แผ่นดินหลับไหลใต้ซีเมนต์
น้ำในท่อดำคร่ำคร่า
ไม่มีใครร้องเพลงปลอบโยน
ท้องฟ้า แผ่นดิน ผืนน้ำ ดอกไม้ และผู้คน
ดูราวทุกสิ่งถูกขังในความมืดดำ
เด็กชายก้อนหินและเด็กหญิงโต๋กำลังเป่าขลุ่ยและร้องเพลงในใจเรา
แต่เราได้ยินหรือเปล่านะ
มองเห็นหรือเปล่านะ
สัมผัสหรือเปล่านะ
พวกเขาร้องเพลงที่โศกเศร้า และเป่าขลุ่ยแห่งความหวัง
ขับขานเสียงของลม ฝน พระจันทร์ พระอาทิตย์ น้ำ ปลาน้อยสองตัว และแม่
เพียงได้ยิน มองเห็น สัมผัส เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
พายุจึงเริ่มคลายจากความสะอึกสะอื้น
ท้องฟ้ามีแสงจาง
ผืนซีเมนต์ในยามเช้ามีคราบความสดใส
ไม่สว่างหรือมืดมนเสียทีเดียว
แรงบันดาลใจจาก พายุฝนเมื่อคืน หนังสือไผ่พระจันทร์ และแม่ของตัวเอง
Thursday, May 08, 2008
ชีวิต กับ ความสัมพันธ์
จำคำอธิบายแน่นอนไม่ได้ แต่ได้ความประมาณว่า ตัวของเรามีความสัมพันธ์กับตัวเอง กับกาย กับใจของเรา เรามีความสัมพันธ์กับผู้คน สรรพสัตว์ สัมพันธ์กับโลก ฯลฯ
ฟังแล้วรู้สีกว่าจริง ชีวิตเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ ถ้าใจของเราไม่สัมพันธ์กับเลือดของเรา เราคงตาย ถ้าขาของเราเดินไม่สัมพันธ์กับแขนก็เดินเขว่ ถ้ามือซ้ายเราเจ็บ มือขวาเราก็ทำงานหนัก ถ้าเราทะเลาะกับแม่ หน้าเราก็ขมวดเซ็ง ถ้าใจกับกายของเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราก็จะไม่เคยได้รู้ถึงความสุขที่แท้จริง
หลายครั้งเราหลงลืมความสัมพันธ์นั้น ค่อนข้างโง่ เป็นความโง่ที่แท้
และเมื่อชีวิตคือความสัมพันธ์ หลายๆ ครั้งเราใช้หัวของเราตัดความสัมพันธ์ดังฉับๆๆๆๆ แต่ความสัมพันธ์นั้นไม่ได้หายไปไหน แต่เป็นตัวเราเองที่ขาดวิ่นแบบไม่รู้ตัว
ฉะนั้นตั้งแต่นี้ต่อไป เราตั้งใจให้การเขียนของเราเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ครั้งใหม่กับตัวเราเอง กับแม่ของเรา กับบรรพบุรุษ กับคนรอบข้างเรา กับสิ่งต่างๆ อีกมากมาย
การกลับมาเขียนบล็อกนี้จึงถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ของตัวเองที่จะบันทึกความคิด ความรู้สึกของเรา และขอเชิญเพื่อนๆ มาเดินในสวนอักษรอันเวิ่นเว้อของข้าพเจ้าต่อไป ฮ่าๆ
....
วันนี้ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนคนหนึ่งที่มีความทุกข์มากในความสัมพันธ์กับคนอื่น ในการทำงานกับเพื่อนของเขา
ตัวเราเองไม่ได้เก่งกาจอะไรนัก จริงๆ ความสัมพันธ์เป็นข้อสอบใหม่ของเราอยู่เหมือนกัน และเรากำลังเรียนมันอยู่ ได้ข้อสรุปประมาณนี้
1 ความสัมพันธ์เป็นคำตรงตัว แปลว่ามันต่อเนื่องเหมือนสายธารน้ำไหล ไม่ได้ตัดขาดออกจากกัน ไม่ได้ยืนโด่เด่โดดเดียว เมื่อมีเหตุการณ์ด้านบวก น้ำของเราก็ไหลเย็นสดใส เมื่อมีเคมีด้านลบ ขุ่นๆ ขัดๆ
1.1 ความสัมพันธ์เป็นคำตรงตัว แปลว่า เราสัมพันธ์กับเขา และ เขาสัมพันธ์กับเรา ฉะนั้นไม่มีการปฏิสัมพันธ์แบบฝ่ายเดียว ไม่มีใครมีปฏิกิริยาอยู่ฝ่ายเดียว ฉะนั้นจะแยกขาดระหว่างเขากับเราได้อย่างไรกัน
2 ความสัมพันธ์กับคนอื่น เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับตัวเอง
เหมือนจะเริ่มต้นใหม่กับคนอื่น เราเริ่มต้นใหม่กับตัวเองก่อน
เหมือนจะรักคนอื่น แต่เราก็เรียนรู้ที่จะรักตัวเองด้วย การรักตัวเองก็คือการกลับมาอยู่ มาดูแลตัวเองอย่างแท้จริง ฉะนั้นมาหายใจสามครั้งก่อนอ่านข้อต่อไปนะ
3 เมื่อเราโกรธ เราจะสร้างเกราะสำหรับตัวเอง ให้เราดูแกร่ง เราไม่เป็นไร ไม่มีเค้าเราก็ไม่ตาย เมื่อถูกถามว่าเป็นอะไรหรือป่าว เราจะตอบทันที่ว่า "ไม่!" แต่จริงๆ แล้วกำลังปุดมาก แต่ถ้าเราปฏิบัติ เราจะรู้ว่าการยอมรับความโกรธของเราเป็นเรื่องที่กล้าหาญอย่างยิ่ง และหากเราปฏิบัติมากพอ เราจะสามารถบอกเพื่อนได้ว่า เราเป็นทุกข์ และช่วยฉันด้วย นั้นก็ถือเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งเช่นกัน และทำให้เราเป็นทุกข์น้อยลงจริงๆ นะ
4 การเริ่มต้นใหม่ คือ การภาวนาว่าด้วยรัก และการฟังอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเรายังปฏิบัติอยู่จ๊ะ
อยากรู้ก็ต้องลองปฏิบัติดูนะทุกๆ โค้นนนน
:)
จบแหละ
Friday, May 02, 2008
บล็อกเก่ามาใช้ใหม่
เลยว่าจะหันมาใช้บล็อกนี้บ้าง
แต่ทำไมเราคิดว่าบล็อก Blogspot ใช้ยากจังเลย
เลยว่าจะต้องมาฝึกปรือเม้ากันบ้าง
เอาน่าโลกร้อน ต้องหัดใช้ของเก่าให้คุ้ม
เอ เกี่ยวกันไหมน่ะ